Wednesday 27 March 2013

งานกะลามะพร้าว



เมื่อพูดถึงมะพร้าว เราจะพบว่า มะพร้าวมีประโยชน์มากมาย ทุกส่วนของมะพร้าวทำประโยชน์ได้ทั้งหมด โดยเฉพาะเนื้อมะพร้าว ที่มักนำไปทำเป็นขนม นำไปคั้นทำเป็นกะทิ แต่ก็ไม่ใช่เนื้อหรือน้ำเท่านั้น แม้แต่กะลามะพร้าว ถ้าเรามีหัวทางด้านศิลปอยู่บ้าง และสนใจที่จะทำเป็นอาชีพ ก็สามารถที่จะประดิษฐ์กะลาพร้าว ให้เป็นงานฝีมือต่างๆ เช่น ประดิษฐ์เป็นของประดับ,ทำเป็นกระปุ๊กออมสินรูปต่างๆ,ทำเป็นโมบายล์, ทำเป็นของชำร่วย และอื่นๆ ตามแต่ที่จินตนาการเลย ทำให้สร้างรายได้ ได้เป็นกรอบเป็นกำเลยทีเดียว เนื่องด้วยจากต้นทุนที่ต่ำมาก (กะลามะพร้าวทั่วไปหาได้ง่ายมาก หรืออาจจะไปซื้อมะพร้าวมาทำก็ได้เลย) เอาล่ะพล่ามมาพอแล้ว เรามาดูวิธีการทำกันดีกว่า

วัสดุ/อุปกรณ์
  1. กะลามะพร้าว
  2. มอเตอร์ที่ใส่ใบเลื่อยไฟฟ้า
  3. กระดาษทราย หยาบ ละเอียด
  4. ก้อนหินขัดมัน
  5. กาวร้อน
  6. หวาย
  7. ไม้ตาล

วิธีทำ 
  1. สั่งซื้อกะลามะพร้าว งานประดิษฐ์กะลามะพร้าวสามารถใช้กะลามะพร้าวได้ทุกชนิด โดยเฉพาะพันธ์พื้นเมืองที่มีขนาดเล็ก สามารถประดิษฐ์เป็นแก้วกาแฟ หรือแก้วไวน์ได้.  กะลามะพร้าวต้องขูดเอาเนื้อออกทั้งหมด (ให้เหลือแต่กะลาเปล่าๆ) 
  2. วาดรูปบนกะลาให้ตรงตามแบบที่ต้องการ และนำไปตัดด้วยมอร์เตอร์ติดเลื่อยไฟฟ้า ให้มีขนาดใกล้เคียงหรือถ้าเป็นเครื่องประดับต้องตัดให้พอดี
  3. หลังจากตัดแล้วให้เนามาขัดด้วยกระดาษทรายทั้ง 2 ด้าน สัก 4 ครั้ง (ประมาณ 4 ครั้ง จะได้กะลาที่ผิวเรียบกำลังดี)
    1. ขัดครั้ง แรก ใช้กระดาษทราย เบอร์ 60 ขัดจนกว่าเยื่อที่ยึดติดกับกะลาออกหมด
    2. ขัดครั้งที่ สอง ใช้กระดาษทรายเบอร์ 220
    3. ขัดครั้งที่ สาม ใช้กระดาษทรายเบอร์ 400
    4. ขัดครั้งที่ สี่ ใช้กระดาษทรายเบอร์ 600 กะลามะพร้าวจะเริ่มเรียบเป็นมัน
  4. นำมาขัดด้วยก้อนขัดมัน หรือก้อนยาขาว ซึ่งจะทำให้กะลามีผิวที่ลื่นและมันวับ ก่อนที่จะนำไปประกอบกับด้ามจับที่ทำจาก ไม้ตาล (ไม้ตาลต้องตัดให้เป็นรูปทรงที่ต้องการก่อน)
  5. ขัด ไม้ตาล ให้มันแบบเดียวกับกะลา (ใช้วิธีเดียวกัน) ให้ตอกหมุดยึดด้ามกับกะลา และใช้หวายถักปิดรอบบริเวณที่ตอกหมุด
  6.  ถ้าภาชนะไหนที่ไม่สามารถตอกหมุดได้ ให้ใช้กาวร้อนยึดติดกันแทน ก็จะเสร็จขั้นตอนการทำภาชนะจากกะลา หรือสามารถนำไปตกแต่งเพิ่มเติมทีหลังได้
แหล่งจำหน่าย/ตลาด/ลูกค้า
  1. สถานที่ท่องเที่ยว
  2. ร้านของที่ระรึก/ขายของฝาก
  3. ขายตามเทศกาลต่างๆ (งานวัด, ลอยกระทง, สงกรานต์ ฯลฯ)
คำแนะนำ
  • กะลามะพร้าวที่จะนำมาใช้เป็นงานประดิษฐ์ควรเป็นมะพร้าวพันพื้นเมือง เพราะหาซื้อได้ง่าย และกะลามะพร้าวยังมีความแข็งแรงทนทาน
  • กะลามะพร้าว สามารถแปรรูปเป็นสิ่งของต่างๆ ได้ง่าย และมีต้นทุนที่ต่ำมาก 

Tuesday 29 January 2013

นาฬิกากรอบรูป



รูปจากอินเตอร์เนท


รูปจาก https://www.facebook.com/imideashop


นาฬิกา กรอบรูป
เห็นจากรูปคงพอจะนึกออกนะครับ ว่าทำยังงัย แต่สำหรับคนที่ยังไม่เข้าใจไม่เป็นไร ครับ ผมขออธิบายง่ายๆ ก็แล้วกัน นาฬิกากรอบรูป เป็นการนำนาฬิกามา มาใส่รูปที่ต้องการ ตามวิธีทำข้างล่างเลย

วัสดุอุปกรณ์
  1. นาฬิกา
  2. กรอบรูปที่เตรียมไว้
  3. รูปที่เตรียมไว้ขนาดเดียวกับกรอบรูป
  4. กาวลาเท็ก
วิธีทำ
  1. แกะเอารูปเก่าของนาฬิกาออก
  2. ทากาวลาเท็กให้ทั่วบริเวณกรอบรูป
  3. ใส่รูปใหม่เข้าไป อย่าลืมเจาะรูนาฬิกาให้เรียบร้อยด้วยล่ะ
แหล่งจำหน่าย/ตลาด/ลูกค้า
  1. สถานที่ท่องเที่ยว
  2. ร้านขายของชำร่วย/กิ๊ฟช็อบ
  3. ตลาดนัด
  4. อินเตอร์เนท
เห็นไหมครับ ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยากเลยทำได้ง่ายมากๆ แล้วต้นทุนก็ไม่ได้สูงมากเลย และยังสามารถขายได้หลากหลายเทศกาลหรือช่วงเวลาสำคัญ (จากรูปตัวอย่างงานรับปริญญา) ได้ อย่างไม่อายใครด้วยครับ

Monday 21 January 2013

ตู้ปลาทีวี




ทีวีเก่าๆ เครื่องใหญ่ๆ ที่ใครๆ ดูแล้วก็บอกว่าน่าจะเอาไปทิ้งได้แล้วนะ (มันหมดสมัยแล้ว) เดี๋ยวนี้เขามีแต่ทีวีเครื่องใหม่ๆ จอแบนๆ จอใหญ่ๆ ราคาถูกๆ มากมายเลย แต่ว่าเดี๋ยวก่อนอย่าเพิ่งทิ้งครับถ้าเราจะเปลี่ยนจากของเก่าไร้ค่าเปลี่ยนเป็นตู้ปลาชิ้นใหม่ที่เก๋อย่าบอกใคร เลย วันนี้เลยเอาไอเดียกับวิธีทำตูปลาทีวีมาฝากกัน


ผลิตภัณฑ์ ตู้ปลาทีวี

รายละเอียดผลิตภัณฑ์
ตู้ปลาทีวี นำทีวีที่เสียแล้วมาดัดแปลงเป็นตู้เลี้ยงปลาสวยงาม

วัตถุดิบที่ใช้/อุปกรณ์
1. ชุดกรองน้ำ 
2. ปั๊มอากาศ 
3. หินสี 
4. ต้นไม้พลาสติก 
5. ชุดไฟฟ้า






วิธีทำ
1. นำ ทีวี.เก่า มารื้อเครื่องและอุปกรณ์ภายในออกให้หมด
2. เจาะรูเล็ก ๆ ที่ด้านหลังหลอดภาพ เพื่อให้อากาศเข้าไปในหลอดภาพ
3. ปล่อยทิ้งไว้อย่างน้อย 1 วัน เนื่องจากหลอดภาพของ ทีวี.มีแต่สูญญากาศ อาจทำให้หลอดภาพแตกหรือร้าวได้ ควรให้หลอดภาพปรับสภาพเสียก่อน
4. ใช้หินเจีย ตัดบริเวณเดือยที่ยื่นออกมาทางด้านหลัง
5. ด้านบนของจอภาพ ใช้น้ำยากัดกระจกชนิด 100% เพื่อกัดให้เป็นช่องขนาดเล็ก-ใหญ่ ตามต้องการ ช่องนี้จะนำอุปกรณ์หรือปลาสวยงามใส่ลงไปในตู้ โดยใช้ดินน้ำมันกั้นให้เป็นขอบขนาดกว้าง ก่อนที่จะเทน้ำยากัดกระจกลงไป ควรปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 2 วัน
6. รื้อเอาโครงเหล็กภายในจอภาพออกให้หมด เพื่อไม่ให้เกิดสนิมเมื่อใส่น้ำลงไป
7. ตกแต่ง ทาสี หรือใส่ไฟฟ้าตามต้องการ


การใช้/ประโยชน์

1. ใช้เลี้ยงปลาสวยงาม
2. ใช้เป็นตู้โชว์


วิธีการดูแลรักษา
ควรทำความสะอาดตู้ และเปลี่ยนน้ำอย่างน้อยเดือนละครั้ง

*เห็นไหมครับ การทำตู้ปลาไม่ได้ยากเย็นเลย ขอแค่มีไอเดียกับความตั้งใจจริงก็สำเร็จแล้ว ขู่แข่งก็ไม่ได้มีมากมายนัก (เพราะหาทีวีเก่าๆยากมั้ง) แถมทำสำเร็จยังเป็นความภาคภูมิใจให้แก่ตัวเราเองอีกต่างหาก (เราก็มีฝีมือเหมือนกัน)

Wednesday 9 January 2013

แกะสลักกระจก


รูปจากอินเตอร์เนท

งานแกะสลักลายกระจกจะว่าไปก็เหมือนทำยากมากมาย แต่ถ้ามาดูกันดีๆ แล้วมันไม่ยากอย่างที่คิดเลย เริ่มต้นด้วยรูปแบบการคิดอย่างง่ายๆ คือ กาำรทำให้กระจกเป็นลวดลายตามต้องการนั่นหมายความว่าต้องมีแบบที่เราต้องการแกะสลักก่อน เสร็จแล้วทำงัยต่อละ
งั้นเรามาดูวิธีทำกับอุปกรณ์ที่ต้องใช้ตามข้อมูลด้านล่างกันเลย

วัสดุ/อุปกรณ์

  1. แผ่นกระจก (กระจกใส หรือกระจกเงา ตามขนาดที่ต้องการ)
  2. แผ่นภาพต้นแบบ ( ปรับขนาดภาพต้นแบบให้เท่ากับขนาดกระจกที่ต้องการ )
  3. แผ่นสติ๊กเกอร์
  4. มีดแกะสลักกระจก  หรือคัตเตอร์
  5. ดินน้ำมัน
  6. กาวลาเท็กซ์
  7. หลอดฉีดยา
  8. น้ำยากัดกระจกแบบครีม หรือแบบน้ำ
  9. กระดาษหนังสือพิมพ์
  10. ถุงมือ
  11. ช้อนพลาสติก


วิธีการแกะสลักกระจกมี 2 วิธีด้วยกัน
วิธีแบบครีม 

  1. นำสติ๊กเกอร์มาติดกับแผ่นกระจกรีดให้เรียบ           
  2. นำภาพต้นแบบ ทากาวปิดทับสติ๊กเกอร์             
  3. แกะลายตามภาพต้นแบบด้วยมีดแกะสลัก            
  4. ลอกภาพต้นแบบจากสติ๊กเกอร์            
  5. นำครีมแกะกระจก มาทาทับบนสติ๊กเกอร์  
  6. ทิ้งไว้ประมาณ 20  นาที     
  7. นำกระจกไปล้างน้ำเปล่า ลอกแผ่นสติ๊กเกอร์ออกแล้วผึ่งให้แห้ง


วิธีแบบน้ำ

  1. นำสติกเกอร์มาติดกับแผ่นกระจกรีดให้เรียบ
  2. นำภาพต้นแบบทากาวปิดทับสติ๊กเกอร์ 
  3. แกะลายตามภาพต้นแบบด้วยมีดแกะสลัก
    1. นำดินน้ำมันมาติดรอบ ๆ รูปที่แกะสลัก
    2. เทน้ำยากัดกระจกแบบน้ำลงไป พอท่วมภาพที่แกะ 
    3. นำหลอดฉีดยา  มาดูดน้ำยาที่ภาพ แล้วเทใส่ขวดเปล่าไว้ ( สามารถนำกลับมาใช้ได้อีก ) 
  4. ทิ้งไว้ประมาณ 2 ชั่วโมง 
  5. นำกระจกไปล้างน้ำเปล่า ลอกแผ่นสติ๊กเกอร์ออก   ผึ่งให้แห้ง

ทั้ง 2 วิธี ให้ผลลัพธ์การแกะสลักกระจกได้เหมือนกัน แต่มีข้อดีคนละอย่างกัน เช่น 
วิธีแบบครีม เราสามารถใช้กับกระจกบานใหญ่ๆ แนวตั้ง ที่ไม่สามารถยกกระจกหรือเทน้ำยาได้ทั่วถึงได้ เช่น ผนังกระจก เป็นต้น 
วิธีน้ำ เราสามารถนำน้ำยากลับมาใช้ใหม่ได้ จึงเหมาะกับการแกะสลักกระจกปริมาณมากๆ เป็นต้น
จะเห็นว่าขั้นตอนและวัสดุอุปกรณ์ค่อนข้างเยอะ แต่ ว่าถ้าลองทำจริงแล้วจะพบว่าไม่ยากเลย ครับ 

Tuesday 18 December 2012

ลูกโป่งแฟนซี


รูปจากอินเตอร์เนท



ลูกโป่งแฟนซี
ถือเป็นศิลปะการประดิษฐ์ลูกโป่งให้เป็นเป็นรูปร่างต่างตามที่ตัวเองต้องการ หรือลูกค้าต้องการ ด้วยราคาต้นทุนที่มีแค่ลูกโป่งที่ราคาไม่แพงมากนัก แำละเป็นสิ่งที่ไม่เน่าเปื่อยไม่เหมือนข้าวแกง(ที่ต้องขายให้หมดต้องเตรียมของแต่หัววัน ขายไม่หมดก็เสียต้องทิ้งอีกต่างหาก) ทำให้เป็นอาชีพที่น่าสนใจมาก และราคาที่ขายได้ก็ถือว่าไม่น้อยเลยทีเดียวถ้าเทียบกับข้าวแกง 30 บาท แล้ว กับลูกโป่่งก็ขายได้ 30 บาทเท่ากัน อาจแพงกว่านี้ด้วยถ้ารูปแบบของลูกโป่งที่ใช้มีความซับซ้อนมากขึ้นหรือใช้ลูกโป่งมากขึ้น และข้อดีอีกอย่างหนึ่งก็คือ ใช้เวลาในการประดิษฐลูกโป่งเป็นลวดลายต่างๆ เร็วมาก โดยมากแค่ ไม่เกิน 2 นาที ก็เป็นรูปร่าง เสร็จแล้ว จึงนับว่าเป็นอาชีพที่ไม่ควรดูถูกเลยทีเดียว ขอเล่าถึงแหล่งของลูกค้านะครับ
ลูกค้าโดยทั่วไปจะเป็นเด็กที่เมื่อเห็นลูกโป่งรูปร่างต่างๆ ก็มักจะร้องขอพ่อแม่ ให้ซื้อให้แทบทุกคน (แต่อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับผู้ขายด้วยแล้วว่าสามารถประิดิษฐ์ลูกโป่งเป็นรูปร่างอะไรที่จะดึงดูด น้องๆ ที่น่ารัก ให้อ้อนพ่อแม่มาซื้อได้) หรืออาจเป็นผู้ปกครองที่ต้องการซื้อไปฝากลูกหลาน อันนี้ก็มีเยอะเหมือนกัน


วัสดุอุปกรณ์
  1. ลูกโป่งใส้ไก่หลากหลายขนาดและสีสรรค์
  2. เสาไม้ไว้เสียบลูกโป่ง
วิธีทำ
  1. ดัดลูกโป่งเป็นรูปที่ลูกค้าต้องการ
  2. เสียบเข้ากับเสาไม้
แหล่งจำหน่าย/ตลาด/ลูกค้า
  1. สถานที่ท่องเที่ยว
  2. หน้าโรงเรียน
  3. ตลาดนัด
  4. ขายตามเทศกาลต่างๆ (งานวัด, ลอยกระทง, สงกรานต์ ฯลฯ) 

Monday 17 December 2012

ลูกปัดมีชื่อ


รูปจากอินเตอร์เนท

ลูกปัดมีชื่อ
ในยุคข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ ข้าวแกงไปจานละ 35 บาท กันแล้ว แล้วค่าแก็สกับน้ำมันที่ยังเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุด การลงทุนทำอะไรในช่วงข้าวยากหมากแพงเช่นนี้ คงจะต้องคิดกันอย่างถี่ถ้วนหน่อยนะครับ เพราะถ้าผิดพลาดล้มเหลวขึ้นมา คงจะเสียเวลารวมทั้งเสียเงินอย่างแน่นอน แต่วันนี้ผมจะมาแนะนำอาชีพนึงที่ทำเงินได้พอควร และเหมาะมากที่จะทำการค้าขายในกลุ่มของเด็กจนถึงผู้ใหญ่เลยทีเดียว ก็คือ ลูกปัดมีชื่อ นั่นเอง ด้วยแนวความคิดง่ายๆ แค่นำลูกปัดที่มีตัวอักษรมาเรียงต่อกัน ร้อยเข้ากันด้วยเชือก หรือ ลวดอะไรได้ แค่นี้ก็สามารถที่จะทำเงินให้กับ พ่อค้าแม่ค้าได้แล้ว อีกทั้งยังสามารถนำลูกปัดหลากสีต่างๆ เช่น หัวใจ โบ มาเชื่อมต่อ ระหว่างคำ กลายเป็นคำอะไรก็ได้ ที่ให้ความหมายแก่ผู้ซื้อ ก็ทำให้ ธุรกิจนี้ ซื้อง่ายขายคล่องแล้ว
โดยมากลูกค้ามักจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นที่ชอบของน่ารักๆ โดยเฉพาะวัยรุ่นผู้หญิง ชอบมาก ชอบทำเป็นสายคล้องโทรศัพท์ บ้าง ใช้สายรัดข้อมือบ้าง แล้วยังพร้อมกับ สนนราคาต้นทุนที่ไม่แพงมากนัก และหาซื้อได้แถวย่านสำเพ็ง พาหุรัด ประตูน้ำ  ทำให้ขายขายได้ในราคาไม่แพงเกินไป เช่น อาจตั้งราคาขายไว้ว่า ไม่มากกว่า 5 ตัวอักษรคิด 10 บาท ถ้าเกินนั้นคิด อักษรละ 2 บาท ด้วยราคาเบาๆ แค่นี้ก็สามารถขายให้ได้ทั้ง เด็กนักเรียน จนถึง ผู้ใหญ่ ได้เลยทีเดียว
การเตรียมตัวขายของสำหรับลูกปัดมีชื่อนี้ ไม่ยากเลยทีเดียว ใช้แค่ โต๊ะตัวนึง (โต๊ะพับกินก๊วยเตี๋ยวก็ได้) พร้อมกับ ถามของลูกปัด หลากหลาย รูปแบบ สีสรรค์ ก็เพียงพอแล้ว พอลูกค้าเลือกตัวอักษรเสร็จ เราก็นำมาร้อยเข้าด้วยเชือกของเรา ก็เป็นอันเสร็จงานแล้ว ส่วนราคาที่ได้ก็ขึ้นอยู่กับจำนวนลูกปัดที่ลูกค้าเลือก ขั้นต่ำน่าจะอยู่ที่ 10 บาทขึ้นไปต่อชุด แล้่วลองคิดดูว่าถ้าลูกค้าให้ร้อยเป็นชื่อกับนามสกุล หรือชื่อลูกค้ากับแฟน ราคาก็จะไม่แค่ 10 บาทแล้ว จึงเป็นอาชีพที่ เหมาะกับเศรษฐกิจ ยุคข้าวยากหมากแพง

วัสดุอุปกรณ์
  1. โต๊ะวางถาดลูกปัด
  2. ลูกปัดหลากสี หลายแบบ หลายตัวอักษร
  3. เชื่อกร้อยลูกปัด
วิธีทำ
  1. ให้ลูกค้าเลือกลูกปัดเป็นคำที่ต้องการ
  2. ร้อยให้เข้ากันด้วยเชือก
แหล่งจำหน่าย/ตลาด/ลูกค้า
  1. สถานที่ท่องเที่ยว
  2. หน้าโรงเรียน
  3. ตลาดนัด
  4. ขายตามเทศกาลต่างๆ (งานวัด, ลอยกระทง, สงกรานต์ ฯลฯ) 

Thursday 16 August 2012

โมบายกระป๋องน้ำอัดลม


  

 

โมบายกระป๋องน้ำอัดลม
      กระป๋องน้ำอัดลมที่เราคิดว่าไม่มีค่าอะไร แต่เชื่อไหม เราสามารถ เนรมิตให้มันมีคุณค่า และมีราคาได้ เพียงแต่ว่าต้องใช้ สมองใช้ความคิด เพื่อประดิษฐ์แปลรูปจากเศษกระป๋องน้ำอัดลมที่ไม่มีค่าให้กลายเป็นของที่มีค่าขึ้นมา เช่น โมบายกระป๋องน้ำอัดลม ที่มานำเสนอในตอนนี้ มาดูกันว่าเขาทำกันยังงัย

วัสดุ/อุปกรณ์ 
     1. กระป๋องน้ำอัดลม 27กระป๋อง
     2. คลิปหนีบกระดาษ
     3. กรรไกร
     4. คัตเตอร์
     5. ค้อน
     6. ตะปูเล็ก-ใหญ่
     7. ลูกกระพรวน

วิธีทำ
1. ใช้คัตเตอร์เจาะกระป๋องน้ำอัดลมแล้วใช้กรรไกรตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม
2. ตัดหัวใจ ขนาดใหญ่ 1 ชิ้น ขนาดเล็ก 186 ชิ้น
3. เจาะรูบน-ล่างด้วยตะปูเล็กจนครบทุกอัน
 4. ใช้คลิปร้อยหัวใจต่อกัน 4 ชิ้น จำนวน 45 เส้น แล้วร้อยลูกกระพรวน
 5. ตัดกระป๋องจากริมเข้าหาก้นกระป๋องยาว 6 ซม.กว้าง 1 ซม.โดยรอบ 18 เส้น 1กระป๋อง และยาว 5 ซม. 1 กระป๋อง ตัดแต่ละเส้นให้กางออกตัดกระป๋องยาว 5 ซม.ตัดแบ่งเป็น 18 แฉก 
ุ6. เจาะรูด้วยตะปูเล็กจนครบทุกเส้นก้นกระป๋องเจาะรูด้วยตะปูใหญ่ตรงกลางทุกอัน
7. ชั้นในสุด ร้อยหัวใจใหญ่ตรงกลาง รอบนอกร้อยหัวใจเล็ก 9 เส้น ช่องเว้นช่อง
8. ชั้นที่ 2 ร้อยหัวใจเล็กและกระพรวนจนครบทุกเส้น ร้อยต่อแต่ละชิ้นด้วยคลิป
9. ชั้นที่ 3 ร้อยหัวใจเล็กและกระพรวนจนครบทุกเส้น ร้อยคลิปต่อเป็นสายแขวนความยาวตามต้องการ ดัดตกแต่งให้สวยงาม